รองโฆษก ตร. เตือนกรณีถูกหักเงินจากบัญชี รีบอายัดบัตร พร้อมแจ้งความที่โรงพัก

รองโฆษก ตร. เตือนกรณีถูกหักเงินจากบัญชี รีบอายัดบัตร พร้อมแจ้งความที่โรงพัก

เตือนภัยกรณี มีผู้เสียหายถูกหักเงินจากบัญชีธนาคารหรือบัตรเดบิต จำนวนหายครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุ หากพบถูกหักเงินจากบัญชี รีบอายัดบัตร พร้อมแจ้งความที่โรงพัก วันที่ 18 ต.ค.64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัยกรณีมีการแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์มีผู้เสียหายถูกหักเงินจากบัญชีธนาคารหรือบัตรเดบิต จำนวนหายครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุสร้างความเสียหายซ้ำเติมความเดือดร้อนประชาชนห้วงการแพร่ระบาดโควิด-19

ซึ่งสื่อสังคมออนไลน์ได้นำประเด็นดังกล่าวไปโพสวิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย 

เกี่ยวกับมีผู้เสียหาย หลายรายถูกมิจฉาชีพเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวบัญชีธนาคาร บัตรเดบิต โดยมิจฉาชีพจะทำการหักเงินออกจากบัตรเดบิตผ่านเครื่อง EDC หรือเครื่องรูดบัตร แต่ไม่มี SMS แจ้งเตือนไปยังเจ้าของบัตร มีการถอนเงินออกจำนวนหลายครั้งแต่ละครั้งจะถอนเงินจำนวนไม่มาก

ขอแนะนำให้ผู้เสียหายแจ้งไปยังธนาคารเพื่อทำการอายัดบัตรและปฎิเสธการชำระเงินค่าบริการทางออนไลน์ และทำการตรวจสอบรายการเดินบัญชี รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถเดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในทุกพื้นที่ใกล้บ้าน เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนพิสูจน์ทราบถึงตัวผู้กระทำความผิดและนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

การกระทำดังกล่าวนอกจากจะเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนแล้ว ยังเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 269/5 ผู้ใดใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือความผิดตามกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทราบว่าทางสมาคมธนาคารไทยกำลังประสานงานกับธนาคารต่างๆ เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

สำหรับแนวทางการป้องกันกรณีที่คนร้ายได้ข้อมูลที่อยู่ด้านหน้าบัตรและตัวเลขรหัส 3 ตัวที่อยู่ด้านหลังบัตร คนร้ายจึงสามารถนำไปใช้ทำธุรกรรมผ่านทางออนไลน์ที่มีมูลค่าไม่สูงได้ โดยไม่ต้องใช้ OTP ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือผ่านทางออนไลน์ที่ต้องแจ้งข้อมูลด้านหน้าบัตรและรหัส 3 ตัวที่อยู่ด้านหลังบัตร

โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องระวังการหลอกลวงให้กรอกข้อมูลบัตรเพื่อจ่ายเงินค่าภาษีของเว็บไปรษณีย์ไทยปลอม ซึ่งคนร้ายจะทำหน้าเว็บไซต์มีโลโก้ไปรษณีย์ไทยเหมือนของจริง หลีกเลี่ยงการกดลิงค์ที่มีการส่งมาทางอีเมล SMS หรือ สื่อสังคมออนไลน์ หากต้องการเข้าไปที่เว็บไซต์ใด

ขอให้พิมพ์ชื่อเว็บด้วยตัวเองเพื่อป้องกันเข้าไปสู่เว็บไซต์ปลอมที่มีความแนบเนียนมาก นอกจากนี้ยังประชาชนควรนำแผ่นสติ๊กเกอร์ทึบแสงปิดรหัส 3 ตัวด้านหลังบัตร หรือจดรหัส 3 ตัวดังกล่าวเก็บเอาไว้ แล้วใช้กระดาษทรายลบตัวเลขรหัสดังกล่าวออกจากด้านหลังบัตร เพื่อความปลอดภัยในการใช้จ่ายประจำวัน และป้องกันมิจฉาชีพ มิให้แอบถ่ายรูปด้านหน้าและหลังบัตรเพื่อนำไปใช้จ่ายในโลกออนไลน์ ทั้งนี้ประชาชนที่พบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รมว.ดิจิทัลฯ ยันข้อมูลแบงก์ไม่รั่ว เชื่อแก๊งดูดเงินในบัญชีมีเครือข่ายในไทย

รมว.ดิจิทัลฯ ยืนยัน กรณี ดูดเงินในบัญชีผ่าน บัตรเครดิต บัตรเดบิตจำนวนมาก ไม่ได้เกิดจากข้อมูลของธนาคารรั่วไหล เชื่อคนทำต้องมีเครือข่ายอยู่ในไทย

วันที่ 18 ต.ค.64 เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยืนยัน กรณีการหักเงินจากบัญชีที่ผิดปกติผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของลูกค้าจำนวนมาก ไม่ได้เกิดจากข้อมูลของธนาคารรั่วไหล แต่เป็นรายการที่เกิดจากการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่จดทะเบียนในต่างประเทศ ไม่ใช่แฮ็กเกอร์ แต่เชื่อว่าจะต้องมีเครือข่ายอยู่ในไทย

รมว.ดิจิทัลฯ กล่าวต่อว่า ยินดีให้ความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทยและสถาบันการเงินเพื่อช่วยเหลือ ในการสืบค้น ข้อมูลภายใต้อำนาจหน้าที่และเอาผิดให้ถึงที่สุด พร้อมย้ำระบบการชำระเงินผ่านออนไลน์ของสถาบันการเงิน (Internet banking) ยังปลอดภัย พร้อมเตือนประชาชนระมัดระวังในการให้ข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับการทำธุรกรรมออนไลน์

ขณะเดียวกัน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังอยู่ระหว่างการผลักดันพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.)​ ว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอ นิกส์ฯ ภายใต้ พ.ร.บ. ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ซึ่งเตรียมจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในเร็ววันนี้ โดยเน้นเรื่องของข้อกำหนด ให้ผู้ประกอบ ธุรกิจออนไลน์ต้องจดแจ้ง รวมไปถึงการเพิ่มความปลอดภัยในการชำระเงินด้วยการตรวจสอบ 2 ชั้น แต่บัตรเดบิตอาจจะมีปัญหามากกว่าที่ตัดบัญชี

พลตรี จิรโรจน์ ธูปเทียนรัตน์ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองสนับสนุนการกำลังพล ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กรมฝ่ายกำลังพล (อ) ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กรมการเสน าธิการกองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ เป็น ราชองครักษ์ในพระองค์

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป